หมวดหมู่ : เวชสำอางดูแลผิว ,  สินค้าขายดี , 
Share
ใช้ทาบางๆบริเวณที่ต้องการ วันละ 2 ครั้ง หลังอาบน้ำ
* ไม่แนะนำให้ทาใบหน้านะคะ เพราะอาจทำให้เกิดสิวอุดตันได้ค่ะ
EXP 2/2024
1. ยูเรีย คืออะไร เกี่ยวกับผิวเราอย่างไร ทำไมเห็นใช้เป็นส่วนผสมในสกินแคร์ทาผิว ❓
ยูเรียเป็นส่วนประกอบหนึ่งในผิวหนัง
พบได้ประมาณ 7% ของ NMF (Natural Moisturizing Factor) ซึ่งอยู่ที่ผิวหนังชั้นหนังกำพร้าของเราค่ะ ส่วนนี้จะทำหน้าที่ปกป้องผิว กักเก็บความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงให้แก่ผิว และเมื่อเราอายุมากขึ้น ปริมาณของ urea ใน NMF จะลดลงไปเรื่อย ๆ ตามกาลเวลา
2. หาก NMF ไม่สมบูรณ์ และปริมาณ urea ที่ผิวลดลง จะเกิดอะไรขึ้นกับผิวหนังบ้าง ❓
ผลที่จะเกิดตามมา คือ ผิวจะสูญเสียน้ำได้ง่ายขึ้นและมากขึ้น สูญเสียความยืดหยุ่น จึงส่งผลทำให้ผิวแห้งกร้าน ลอก เป็นขุยในที่สุด เราจึงเห็นว่าคนสูงอายุส่วนหนึ่งที่ผิวแห้งนั้น อาจมาจากปัจจัยเรื่องนี้ร่วมด้วยได้ และเมื่อทาครีมที่ผสมยูเรียจึงมักช่วยให้อาการแห้งลอกคันผิวลดลงได้ดี
3. ผลิตภัณฑ์ยูเรียชนิดทาที่มีความเข้มข้นต่างกัน มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ❓
ยูเรียความเข้มข้นต่างกันจะออกฤทธิ์ไม่เหมือนกันค่ะ
✔️ ความเข้มข้นต่ำถึงปานกลาง <10 % จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นผิว (Moisturizing effect) จึงมักใช้แก้ปัญหาผิวแห้ง หรือ โรคผิวหนังในกลุ่มโรคเช่น Xerosis, Ictyosis, Atopic dermatitis, Psoriasis
✔️ ความเข้มข้นสูงเกิน 10% ขึ้นไป ความเข้มข้นเบอร์นี้จัดว่าเป็นยา จะออกฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิวร่วมด้วย (Keratolytic effect) จึงมักใช้ในรอยโรคผิวหนังที่หนา เช่น ขนคุด (Keratosis pilaris), Psoriasis ที่ผื่นหนา หรือใช้แก้ปัญหาที่เล็บ, รักษาหูด, ตาปลา,ใช้ทาส้นเท้าหนาแตกด้าน เป็นต้น
ดังนั้น ควรเลือกให้ถูกวัตถุประสงค์ เช่น หากนำ 40% มาใช้กรณีผิวแห้ง ก็อาจทำให้รอยโรคแย่ลงได้จากการผลัดลอกเซลล์ผิวมากขึ้นกว่าเดิม
4. หากมีปัญหาผิวแห้งมาก ลอกขุย แตก คัน ผิวไม่เรียบ เป็นเกล็ดปลา ต้องดูแลผิวอย่างไร ทาครีมยูเรียอย่างเดียวเพียงพอหรือไม่❓
เนื่องจากปัญหาผิวแห้งอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น