ผิวแตก ผิวแห้งลอก ขนคุด ผื่นแพ้ สะเก็ดเงิน ส้นเท้าแตก Smooth Intensive Care Cream + Urea10% 30 g.ครีมสูตรคุณหมอ กลิ่นหอม
เมลลี่ สมูท อินเทนซีฟ แคร์ ครีม ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกาย
ครีมยูเรียเข้มข้น ผสานสารสกัดจากว่านหางจระเข้ น้ำมันมะกอก และ bha จากธรรมชาติ ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น แก้ปัญหาผิวแห้งแตก เหมาะสำหรับทาบริเวณข้อศอก-หัวเข่า-ส้นเท้า-ฝ่ามือ จุดสัมผัสกร้านบนผิวกาย หรือบริเวณผิวที่แห้งแตก-ลอกเป็นขุย หรือสะเก็ด ให้คืนความนุ่ม ชุ่มชื่น เรียบเนียน
ใช้ทาบางๆบริเวณที่เป็น วันละ 2 ครั้ง หลังอาบน้ำ
* ไม่ควรทาผิวหน้า
EXP 16/05/2024
- ยูเรีย คืออะไร เกี่ยวกับผิวเราอย่างไร ทำไมเห็นใช้เป็นส่วนผสมในสกินแคร์ทาผิว?
ยูเรียเป็นส่วนประกอบหนึ่งในผิวหนัง พบได้ประมาณ 7% ของ NMF (Natural Moisturizing Factor) ซึ่งอยู่ที่ผิวหนังชั้นหนังกำพร้าของเราค่ะ ส่วนนี้จะทำหน้าที่ปกป้องผิว กักเก็บความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงให้แก่ผิว และเมื่อเราอายุมากขึ้น ปริมาณของ urea ใน NMF จะลดลงไปเรื่อย ๆ ตามกาลเวลา
- หาก NMF ไม่สมบูรณ์ และปริมาณ urea ที่ผิวลดลง จะเกิดอะไรขึ้นกับผิวหนังบ้าง?
ผลที่จะเกิดตามมา คือ ผิวจะสูญเสียน้ำได้ง่ายขึ้นและมากขึ้น สูญเสียความยืดหยุ่น จึงส่งผลทำให้ผิวแห้งกร้าน ลอก เป็นขุยในที่สุด เราจึงเห็นว่าคนสูงอายุส่วนหนึ่งที่ผิวแห้งนั้น อาจมาจากปัจจัยเรื่องนี้ร่วมด้วยได้ และเมื่อทาครีมที่ผสมยูเรียจึงมักช่วยให้อาการแห้งลอกคันผิวลดลงได้ดี
- ผลิตภัณฑ์ยูเรียชนิดทาที่มีความเข้มข้นต่างกัน มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง?
ยูเรียความเข้มข้นต่างกันจะออกฤทธิ์ไม่เหมือนกันค่ะ
• ความเข้มข้นต่ำถึงปานกลาง <10 % จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นผิว (Moisturizing effect) จึงมักใช้แก้ปัญหาผิวแห้ง หรือ โรคผิวหนังในกลุ่มโรคเช่น Xerosis, Ictyosis, Atopic dermatitis, Psoriasis
• ความเข้มข้นสูงเกิน 10% ขึ้นไป ความเข้มข้นเบอร์นี้จัดว่าเป็นยา จะออกฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิวร่วมด้วย (Keratolytic effect) จึงมักใช้ในรอยโรคผิวหนังที่หนา เช่น ขนคุด (Keratosis pilaris), Psoriasis ที่ผื่นหนา หรือใช้แก้ปัญหาที่เล็บ, รักษาหูด, ตาปลา,ใช้ทาส้นเท้าหนาแตกด้าน เป็นต้น
ดังนั้น ควรเลือกให้ถูกวัตถุประสงค์ เช่น หากนำ 40% มาใช้กรณีผิวแห้ง ก็อาจทำให้รอยโรคแย่ลงได้จากการผลัดลอกเซลล์ผิวมากขึ้นกว่าเดิม
- หากมีปัญหาผิวแห้งมาก ลอกขุย แตก คัน ผิวไม่เรียบ เป็นเกล็ดปลา ต้องดูแลผิวอย่างไร ทาครีมยูเรียอย่างเดียวเพียงพอหรือไม่?
เนื่องจากปัญหาผิวแห้งอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
• กำแพงผิวเสียจากอายุที่มากขึ้น
• โรคผิวหนังบางอย่าง เช่น ผิวหนังอักเสบ, ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง, โรคสะเก็ดเงิน, โรค Ictyosis
• โรคทางร่างกายอื่น เช่น โรคตับ โรคไต โรคไทรอยด์ มะเร็งบางชนิด ขาดวิตามินหรือสารอาหารบางอย่าง เป็นต้น
• การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน เช่น วัยหมดประจำเดือน
• สภาพอากาศ มลภาวะ
• การใช้สกินแคร์ที่ไม่เหมาะสม
แนะนำวิธีการดูแลผิวแห้ง ดังนี้ค่ะ
- ทาครีมบำรุงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นผิวเป็นประจำสม่ำเสมอ แนะนำให้ทาหลังอาบน้ำทันทีจะสามารถซึมสู่ผิวและออกฤทธิ์ได้ดี ซึ่งสกินแคร์ที่มียูเรียก็สามารถใช้ได้ และหากผิวแห้งมากก็อาจหาส่วนผสมที่เพิ่มความชุ่มชื้นหลายชนิดร่วมด้วย เช่น Eucerin Urea Repair Plus ซึ่งนอกจาก 5% urea ก็ยังมี Ceramides & Gluco-Glycerol & NMFs ที่ช่วยเพิ่มการส่งผ่านโมเลกุลน้ำไปยังผิวชั้น epidermis และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นผิวได้ดี
- ไม่อาบน้ำนานเกินไป เลี่ยงการอาบน้ำร้อน และ เลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่เป็นด่างสูง หลังอาบแล้วผิวตึงเอี๊ยด
- ในกรณีฤดูหนาว อากาศแห้ง อาจใช้ Humidifier เพิ่มความชื้นสัมพัทธ์ให้บรรยากาศรอบตัวในบ้านหรือห้องนอน
- สำรวจตัวเองว่ามีความผิดปกติทางร่างกายใด ๆ หรือไม่
และหากปรับสกินแคร์และพฤติกรรมการดูแลผิวข้างต้นแล้วไม่ดีขึ้น หรือมีความผิดปกติอะไรในร่างกาย แนะนำปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อช่วยตรวจหาว่าคุณมีสาเหตุอื่นที่อะไรซุกซ่อนอยู่ ที่อาจทำให้ผิวแห้งคัน เรื้อรัง ไม่หายสักที ซึ่งเหล่านี้อาจต้องการการรักษาอื่นโดยแพทย์เพิ่มเติมค่ะ